• ภาคการผลิตและการส่งออกที่แข็งแกร่ง: ข้อมูลชี้ให้เห็นว่า ยอดส่งออกของเกาหลีใต้ในเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 5.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งถือเป็นการเติบโตติดต่อกันเป็นเดือนที่ 9 ขณะที่ผลผลิตในภาคเหมืองแร่และการผลิตขยายตัว 3.5% ในเดือนพฤษภาคม เมื่อเทียบเป็นรายปี เช่นเดียวกับภาคบริการที่ขยายตัว 2.3% ในเดือนพฤษภาคม เมื่อเทียบเป็นรายปี
• อุปสงค์ภายในประเทศที่ฟื้นตัว: ตัวชี้วัดสำคัญที่บ่งชี้ถึงอุปสงค์ภายในประเทศ เช่น ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจต่างก็แสดงทิศทางที่ดีขึ้นในเดือนมิถุนายน
• ตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง: จำนวนผู้มีงานทำเพิ่มขึ้น 96,000 ตำแหน่งในเดือนมิถุนายน เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่าเดือนพฤษภาคมที่เพิ่มขึ้น 80,000 ตำแหน่ง
• เงินเฟ้อที่ชะลอตัว: ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ชะลอตัวลงสู่ระดับ 2.4% ในเดือนมิถุนายน จาก 2.7% ในเดือนพฤษภาคม
  
  

 

• Now this is a story all about how, my life got flipped-turned upside down Now this is a story all about how, my life got flipped-turned upside down Now this is a story all about how, my life got flipped-turned upside down Now this is a story all about how, my life got flipped-turned upside down Now this is a story all about how, my life got flipped-turned upside down
• Now this is a story all about how, my life got flipped-turned upside down

• List item one
  1. You might feel like you are being really "organized" o
  2. Nested navigation in UIs is a bad idea too, keep things as flat
  3. Again please don't nest lists if you want Nobody wants to look at this Nobody wants to look at this Nobody wants to look at this Nobody wants to look at this Nobody wants to look at this
  4. vvvvvvv
  5. Nesting tons of folders in your source code is also not helpful. 
  6. as possible.
  7. Nesting tons of folders in your source code is also not helpful.
• List item two
  • I'm not sure if we'll bother styling more than two levels deep.
  • Two is already too much, three is guaranteed to be a bad idea.
  • If you nest four levels deep you belong in prison.
• List item three
  • Again please don't nest lists if you want Nobody wants to look at this Nobody wants to look at this Nobody wants to look at this Nobody wants to look at this Nobody wants to look at this
  • Nobody wants to look at this.
  • I'm upset that we even have to bother styling this.

ในการกล่าวต่อสมาคมเศรษฐกิจแห่งวอชิงตัน ดี.ซี. (Economic Club of Washington D.C.) พาวเวลล์เน้นย้ำว่า เฟดจะไม่รอจนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะกลับมาอยู่ที่ 2% จึงเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เขายังชี้แจงว่า นโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ มีความล่าช้ามานานและปรับเปลี่ยนไปตามข้อมูลเศรษฐกิจ

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) มีการประชุมนัดถัดไปในวันที่ 30-31 กรกฎาคมนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมที่ 5.25-5.50% อย่างไรก็ตาม นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 2 ครั้งก่อนสิ้นปี 2567 โดยเริ่มครั้งแรกในเดือนกันยายนนี้

ทั้งนี้อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ กำลังชะลอตัวลงสู่เป้าหมายของเฟด ดัชนีวัดอัตราเงินเฟ้อผู้บริโภคปรับตัวลดลงในเดือนมิถุนายน โดยราคาสินค้าและบริการโดยรวมปรับตัวลดลงจากเดือนพฤษภาคมเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2563

ที่มา: https://www.efinancethai.com/LastestNews/LatestNewsMain.aspx?ref=FR&id=dlZNQmYyVENOMFE9

 

FDI ปี 2567 แตะ 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐนักวิเคราะห์คาดเวียดนามดึง FDI ปี 2567 แตะ 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐนักวิเคราะห์คาดเวียดนามดึง FDI ปี 2567 แตะ 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐนักวิเคราะห์คาดเวียดนามดึง FDI ปี 2567 แตะ 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

ภาพรวมเศรษฐกิจโลก

• เศรษฐกิจทั่วโลกเติบโตชะลอลงจากภาคการผลิตที่หดตัว แต่ภาคบริการยังแข็งแกร่งในภาพรวม ขณะที่การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจทั่วโลกส่วนใหญ่ยังแย่กว่าที่ตลาดคาด

ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา

• ตลาดแรงงานสหรัฐฯ ชะลอลงต่อ แต่เป็นการกลับเข้าสู่สมดุลมากขึ้น โดยอัตราการว่างงานที่อยู่เหนือระดับ 4% หลัก ๆ มาจากการเร่งตัวขึ้นของจำนวนผู้กลับเข้าสู่ตลาดแรงงาน (Reentrants & New entrants) ไม่ได้เกิดจากการเลิกจ้างงาน (Permanent & Temporary layoff) หากเทียบกับการเกิด Sahm Rule Trigger ในครั้งก่อน ๆ พบว่าระดับการเลิกจ้าง ณ ปัจจุบันยังต่ำ ทั้งนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้ตลาดได้ Price In ความคาดหวังเรื่อง Fed ลดดอกเบี้ยไปเต็มที่แล้ว
• การประกาศกำไรของบริษัทในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในภาพรวมยังออกมาดีกว่าคาด โดยเฉพาะกลุ่ม Magnificent 7

เรายังคงมุมมอง Neutral ต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยในระยะสั้นยังขาด Positive Catalyst

ตลาดหุ้นจีน

• บรรดานักเศรษฐศาสตร์ปรับลดคาดการณ์ GDP จีน ในปี 2024 ไม่ถึง 5% ซึ่งเป็นระดับที่รัฐบาลจีนตั้งเป้าหมาย หลังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอาจไม่มากพอ ขณะที่ความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐฯอาจรุนแรงขึ้นอีก
• นอกจากนี้ เศรษฐกิจจีนยังเผชิญกับความท้าทายระยะยาว ล่าสุด Bloomberg Economic ได้ปรับลดคาดการณ์ประชากรจีน จากคนรุ่นใหม่ไม่อยากแต่งงานและมีลูกมากขึ้นเนื่องจากไม่มั่นใจต่อเศรษฐกิจ
• ด้าน Valuation ของตลาดหุ้นจีน ยังอยู่ในระดับถูก แต่ประมาณการกำไรหุ้น A-shares ถูกปรับลง สวนทาง All China ที่ถูกปรับขึ้นจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ผลประกอบการดี

เราเปลี่ยนคำแนะนำจาก “สะสม” เป็น “ถือ” เพื่อรอดูมาตรการกระตุ้นช่วง Golden Week

ตลาดหุ้นอินเดีย

• อินเดียยังคงเป็นประเทศที่มีศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจที่โดดเด่นเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ จากภาครัฐที่ใช้นโยบายขาดดุลงบประมาณอย่างต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ เม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติที่ไหลเข้าต่อเนื่องเอื้อต่อภาคการผลิตในประเทศ รวมถึงกำลังซื้อในประเทศสูงขึ้นจากชนชั้นกลางที่เพิ่มขึ้น
• ระยะยาวตลาดหุ้นอินเดียได้อานิสงส์จากการเพิ่มน้ำหนักในดัชนี MSCI Emerging Market ขณะที่ Valuation ของหุ้นอินเดียไม่เคยถูก แต่การเติบโตของกำไรคือปัจจัยขับเคลื่อนหลักของตลาดหุ้น

เรายังคงคำแนะนำทยอยสะสมกองทุน B-BHARATA

ตลาดหุ้นไทย

• ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวโดดเด่นในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา หลังการเมืองในประเทศมีเสถียรภาพมากขึ้น รวมถึงความคาดหวังต่อมาตรการพยุงตลาดหุ้นจากการเปิดขายกองทุนวายุภักษ์วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท
• อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยยังเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจเชิงโครงสร้างในระยะยาว ซึ่งจะจำกัดการเติบโตของผลประกอบการบริษัท ด้าน Valuation ยังอยู่ในระดับถูก แต่คาดการณ์กำไรยังถูกปรับลง

เรายังคงคำแนะนำทยอยขายหุ้นไทย และ REITs ไทย

 

1	2
1	2
1	3
1	3
1
1