เงินเดือนเข้าแล้ว! ถึงเวลาจัดการเงินเดือนให้ได้เงินล้าน! ถ้าไม่เริ่มตอนนี้ แล้วจะเริ่มตอนไหน?
ข้อมูลจากอัตราส่วนทางการเงินของการออมและการลงทุน หรือ Saving Ratio แนะนำว่า เราควรเก็บเงินหรือลงทุนอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 10% ของรายรับทั้งหมด สมมติถ้าเงินเดือนคุณอยู่ที่ 20,000 บาท สัดส่วนเงินที่ควรลงทุนต่อเดือนควรอยู่ที่อย่างน้อย 2,000 บาท ซึ่งหากเราเก็บเงินอย่างต่อเนื่อง ตามหลักการลงทุนแบบ DCA ก็อาจช่วยให้มนุษย์เงินเดือนอย่างเรา มีเงินเก็บได้ถึงหลักล้านเลยทีเดียว!
แต่ถ้าใครกลัวลืมลงทุนอย่างต่อเนื่อง แอป InnovestX มีตัวช่วยดี ๆ เพื่อเสริมสร้างวินัยในการลงทุน ด้วยบริการตั้งค่าการลงทุนรายเดือนอัตโนมัติ เพื่อช่วยให้การเก็บเงินกลายเป็นเรื่องง่าย และอาจต่อยอดเงินสัดส่วนนี้ให้งอกเงยถึงเป้าหมายทางการเงินที่คุณตั้งเป้าไว้!
3. ระบุจำนวนเงินที่ต้องการจะลงทุน
จากนั้นกดยอมรับความเสี่ยง และกดยืนยันการลงทุน
สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวนหนักโดยปรับลดรุนแรงในช่วงต้นสัปดาห์ ต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน จากความกังวลใน 2 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1 ความกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหม่กลับมาอีกครั้ง กับ 2 กระแส unwind carry trade หลัง BoJ ขึ้นดอกเบี้ย ภาพ recession รอบใหม่เกิดขึ้นหลังจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.ค. สหรัฐ และ ISM ภาคการผลิตออกมาต่ำกว่าคาด นำไปสู่ความคาดหวังการลดดอกเบี้ยของ Fed ที่มากขึ้นและเร็วขึ้น ส่งผลให้ VIX Index ที่เป็นดัชนีวัดความกลัวของตลาดพุ่งขึ้นไปสูงถึง 65 จุดในวันจันทร์ใกล้เคียงช่วงวิกฤติ Covid-19 ผลตอบแทนพันธบัตรลดลงต่ำกว่า 4.0% สะท้อนภาวะ Risk-off ของตลาด อย่างไรก็ตามตลาดเริ่มฟื้นขึ้นในช่วงกลาง-ปลายสัปดาห์ หลังตัวเลขเศรษฐกิจยังไม่บ่งชี้ว่าสหรัฐใกล้เข้าสู่ภาวะถดถอย ตัวเลขขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกออกมาต่ำกว่าคาด ในส่วนของ ธ. กลางญี่ปุ่นส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อในสัปดาห์ก่อน ทำให้เกิดกระแส unwind carry trade และทำให้ค่าเงินเยนแข็งขึ้นไปสู่ 143 เยนต่อดอลลาร์ จาก 150 เยน เริ่มบรรเทาลงบ้าง หลังจากรองผู้ว่าฯ BOJ กลับมาส่งสัญญาณไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากตลาดการเงินอยู่ในภาวะผันผวน ทำให้เงินเยนเริ่มเสถียรภาพมากขึ้น ด้านตลาด EM ปรับลดลงในทิศทางเดียวกับตลาดโลก โดยตัวเลขเศรษฐกิจภาคการส่งออกของจีนยังคงอ่อนแอ ตลาดหุ้นไทยอ่อนตัวในทิศทางเดียวกับตลาดโลก รวมถึงรอความชัดเจนประเด็นการเมืองในประเทศ เรื่องการตัดสินคดีคุณสมบัตินายกเศรษฐา ราคาน้ำมันทรงตัว แม้จะอ่อนตัวในช่วงต้นสัปดาห์จากความกังวลเศรษฐกิจโลก แต่เริ่มฟื้นขึ้นในทิศทางเดียวกับสินทรัพย์เสี่ยงอื่น รวมถึงความไม่สงบในตะวันออกกลางที่ยังคุกรุ่น
ตลาดหุ้นโลก
สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นทั่วโลกตกต่ำรุนแรงหลังเกิดเหตุการณ์ Black Monday แต่เริ่มฟื้นได้ในปลายสัปดาห์ ผลจากตลาด แรงงานสหรัฐชะลอกว่าคาด อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นแรงสู่ 4.3% ประกอบกับการที่เยนแข็งค่าขึ้นรุนแรงจากสภาวะ Unwind Yen carry แต่เริ่มอ่อนลงปลายสัปดาห์
ตลาดหุ้นไทย
สัปดาห์นี้ ตลาดปรับตัวลดลงแรงตามตลาดโลก รวมถึงมีปัจจัยจาก (1) ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคก้าวไกลและตัดสิทธิกรรมการบริหาร 10 ปี (2) เงินเฟ้อเดือน ก.ค. อยู่ที่ 0.83% สูงกว่าตลาดคาดที่ 0.7% เล็กน้อย (3) กกร. ระบุยอดโอนอสังหาและยอดขายรถหดตัว -9% และ -24% YTD และเป็นห่วงครึ่งปีแรกขาดดุลการค้าจีน 2 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 16%
ตลาดพันธบัตร
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 3.98% ขณะที่ ระยะสั้น 2 ปี ปรับลดลงมาอยู่ที่ 4.02% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี อยู่ที่ -2 bps
ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 2.60% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี ลดลงที่ 2.25% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่ 25,934 ล้านบาท
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
ราคาน้ำมันดิบ Brent ราคาน้ำมัน Brent ปรับลง 0.45%WoW สู่ US$79.16/bbl จากความกังวลอุปสงค์น้ำมันโลกจะชะลอตัว หลังตัวเลขจ้างงานสหรัฐออกมาต่ำกว่าคาด ด้านราคาทองคำ (spot) ปรับเพิ่มขึ้นที่ 2,460.8 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์
ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) อ่อนลงที่ 103.19 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นที่ 147.38 เยน ด้านค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นที่ 1.09 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทแข็งขึ้นต่อเนื่องที่ 35.25 บาท ขณะที่เงินหยวนแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 7.17 หยวน
กดอ่านเพิ่มเติมและดาวน์โหลดเอกสารได้จากปุ่มด้านล่าง