สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้
สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นโลกฟื้นตัวขึ้นได้ต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน หลัง Fed minute ส่งสัญญาณพร้อมลดดอกเบี้ย เดือน ก.ย. หากข้อมูลเศรษฐกิจในระยะต่อไปเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ทั้งนี้คณะกรรมการบางท่านยังแสดงความกังวลถึงสภาวะตลาดแรงงานที่เริ่มชะลอลงอาจทรุดตัวรุนแรงได้ในระยะต่อไป หุ้นกลุ่มเชิงรับ ได้แก่ Healthcare และ Consumer Staples ปรับตัวเพิ่มขึ้น ท่ามกลางความผันผวนของปัจจัยภายนอกและผลประกอบการของกลุ่มค้าปลีกสหรัฐ กลุ่มธนาคารปรับเพิ่มขึ้นเช่นกันตามความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยที่ลดน้อยลง ในขณะที่กลุ่มเทคโนโลยีถูกขายทำกำไรปรับตัวลดลง 0.4% ฝั่งตลาดหุ้น EM ปรับตัวขึ้นได้เช่นเดียวกัน หนุนโดยมาตรการช่วยเหลือภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน นอกจากนั้นผลประกอบการออกมาในภาพรวมมีแนวโน้มไม่ได้แย่อย่างที่ตลาดกังวล นอกจากนั้นค่าเงินเอเชียที่แข็งค่าสูงสุดในรอบ 7 เดือน เป็นอีกปัจจัยหนุนกระแสเงินทุนไหลเข้ามาในภูมิภาค หลังจากเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงมากจากแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของสหรัฐ ด้านค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมากกว่า 6% นับจากสิ้นเดือน มิ.ย. ประกอบกับพัฒนาการในการจัดตั้งรัฐบาลที่มีมากขึ้น และความชัดเจนในการทำโครงการดิจิทัล วอลเล็ตที่อาจมีรูปแบบเปลี่ยนไปและเป็นไปได้มากขึ้น เป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นไทยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คาด ขณะที่ ธปท. คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.5% แต่เริ่มส่งสัญญาณ Data dependent มากขึ้น ราคาน้ำมันอ่อนตัวลงจากข้อตกลงหยุดยิงในกาซาคืบหน้า ขณะที่ราคาทองคำปรับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ระหว่างสัปดาห์
ตลาดหุ้นโลก
สัปดาห์นี้ ตลาดปรับตัวดีต่อเนื่องหลัง Fed minute ส่งสัญญาณพร้อมลดดอกเบี้ยเดือน ก.ย. ท่ามกลางรัฐบาลสหรัฐปรับลดตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรลงเกือบ 30%
ส่งผลให้เงินเอเชียรวมถึงเงินบาทแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ด้าน Kamala Harris ประกาศแนวนโยบายเศรษฐกิจขนาดใหญ่เพื่อลดค่าครองชีพประชาชน
ตลาดหุ้นไทย
ตลาดพันธบัตร
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับลดลงเล็กน้อยที่
3.84% ขณะที่ ระยะสั้น 2 ปี ปรับลดลงมาอยู่ที่ 3.99% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี อยู่ที่ -15 bps
ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ทรงตัวที่ 2.56% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี ทรงตัวที่ 2.20% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่ 6,214 ล้านบาท
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) อ่อนลงที่ 101.37
จุด ขณะที่ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นที่ 145.7 เยน ด้านค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นที่ 1.11 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทแข็งขึ้นรุนแรงที่ 34.47 บาท ขณะที่เงินหยวนทรงตัวที่ระดับ 7.14 หยวน
กดอ่านเพิ่มเติมและดาวน์โหลดเอกสารได้จากปุ่มด้านล่าง
ดาวน์โหลดเอกสาร คลิก!
